นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
Wednesday, 01 June 2022

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

 

มูลนิธิ1  (มูลนิธิ”) ตระหนักดีถึงสิทธิในความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลที่สามารถหรืออาจระบุตัวตนของท่านได้  ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) ซึ่งผู้เข้ารับการอบรม อาสารับใช้ธรรมะ ตลอดจนบุคคลผู้เกี่ยวข้องได้ให้ไว้ ซึ่งมูลนิธิมีการเก็บรวบรวม การใช้ และ/หรือ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (“การประมวลผล”)  มูลนิธิจึงได้จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“นโยบาย”) ฉบับนี้ขึ้นเพื่อให้มีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างถูกต้องและเหมาะสม รวมทั้งคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง (“กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”)

 

1มูลนิธิ ในกลุ่มมูลนิธิเพื่อส่งเสริมและเผยแผ่การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานที่สอนโดยท่านอาจารย์โกเอ็นก้า ในแนวทางของท่านอาจารย์อูบาขิ่น หมายถึง นิติบุคคลหนึ่งนิติบุคคลใดหรือหลายนิติบุคคล ดังต่อไปนี้

 

1.   มูลนิธิส่งเสริมวิปัสสนากรรมฐานในพระสังฆราชูปถัมภ์ (ประกอบด้วย 10 สาขาศูนย์วิปัสสนากรรมฐาน)

2.   มูลนิธิธรรมสุธาลัย 

3.   มูลนิธิธรรมภูวนะ 

4.   มูลนิธิธรรมรังสิมา

 

นโยบายฉบับนี้ จะอธิบายและแจ้งให้ท่านทราบถึงเรื่องต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

·           ข้อมูลส่วนบุคคลที่มูลนิธิมีการเก็บรวบรวม

·           ช่องทางในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

·           วัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

·           การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอก

·           ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

·           สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

·           การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายฉบับนี้

·           ข้อมูลเพิ่มเติมและช่องทางการติดต่อสอบถาม

 

ท่านจะต้องอ่านและทำความเข้าใจนโยบายฉบับนี้อย่างละเอียด ดังนี้

 

 

1.    ข้อมูลส่วนบุคคลที่มูลนิธิมีการเก็บรวบรวม

ในการดำเนินการของมูลนิธิ  ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราเก็บรวบรวมหรือจะเก็บรวบรวม ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับเราโดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่เราได้รับมาจากบุคคลภายนอก หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมจากท่านโดยอัตโนมัติ ประกอบด้วยข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้

ข้อมูลส่วนตัว

เช่น

ชื่อ นามสกุล วัน/เดือน/ปีเกิด อายุ พรรษา เพศ สัญชาติ ศาสนา อาชีพ  รูปถ่าย หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน  หมายเลขหนังสือเดินทาง การศึกษา สถานภาพการสมรส ความสัมพันธ์ในครอบครัว ประวัติสุขภาพและประวัติการรักษาพยาบาล ข้อมูลการตั้งครรภ์ ประวัติการใช้สิ่งเสพติด ภาษาที่ใช้ที่มีความเข้าใจ และภาษาที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร ลายมือชื่อ ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติกรรมฐาน และการปฏิบัติในแนวทางอื่นๆ ประวัติการเข้าอบรมกับมูลนิธิและองค์กรที่เกี่ยวข้อง ประวัติอาชีพ/ทำงาน ครอบครัว/ภูมิหลังและวิกฤตการณ์สำคัญในชีวิต ประวัติการเป็นธรรมบริกร การรักษาศีล ทักษะความสามารถ ประวัติการฉีดวัคซีนและผลการตรวจโรค เป็นต้น

ข้อมูลการติดต่อ

เช่น

หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ที่อยู่ตามบัตรประจำตัวประชาชน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน และข้อมูลผู้ที่สามารถติดต่อได้ เป็นต้น

ข้อมูลเกี่ยวกับการ  ใช้งานระบบสมาชิกต่างๆ

เช่น

ข้อมูลที่ท่านกรอกขณะลงทะเบียนสมัครสมาชิกและสมัครเข้ารับการอบรมของมูลนิธิ (เช่น ชื่อบัญชีสมาชิก (Account ID) ข้อมูลสมาชิก รหัสผ่าน (Password) เป็นต้น

ข้อมูลเกี่ยวกับการ เข้ารับการอบรม

เช่น

ประวัติการเข้าอบรมในหลักสูตรต่างๆ  ประวัติการเป็นธรรมบริกร รวมถึงข้อจำกัดและปัญหาของท่านที่ปรากฏในระหว่างการเข้าอบรม เป็นต้น

ข้อมูลเกี่ยวกับการเงิน

เช่น

หมายเลขบัญชีธนาคาร หมายเลขบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต ใบเสร็จรับเงิน และรายละเอียดหรือข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงินอื่น ๆ  เป็นต้น

ข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทาง

เช่น

เดินทางมาอบรมด้วยตนเองหรือเดินทางมาอบรมด้วยยานพาหนะที่มูลนิธิฯ จัดเตรียม เป็นต้น

ข้อมูลอื่น ๆ

เช่น

รายละเอียดการบริจาคเงินและสิ่งของ รายละเอียดคู่ครองรวมถึงทัศนคติและการปฏิบัติกรรมฐานของคู่ครอง ชื่อนามสกุลและความสัมพันธ์ของเพื่อนหรือญาติที่เข้ารับการอบรมด้วย และบันทึกภาพและเสียงผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) เป็นต้น

ในกรณีที่มูลนิธิเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ก่อนวันที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ มูลนิธิจะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมที่มูลนิธิได้แจ้งไว้แก่ท่าน อย่างไรก็ดี ภายหลังจากที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ หากท่านไม่ประสงค์ให้มูลนิธิเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ท่านสามารถติดต่อมายังมูลนิธิเพื่อขอยกเลิกความยินยอม ตามรายละเอียดการติดต่อที่ระบุไว้ในข้อ 8. ของนโยบายฉบับนี้

 

2.    ช่องทางในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

มูลนิธิอาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

·    เมื่อท่านได้กรอกและแถลงข้อมูลลงในใบสมัครเพื่อเข้ารับการอบรม หรือการเป็นธรรมบริกร ผู้สนับสนุนและช่วยเหลือในกิจกรรมของมูลนิธิ และ/หรือเมื่อท่านลงทะเบียนเข้าถึงหรือใช้เว็บไซต์ www.thaidhamma.net (“เว็บไซต์”) หรือทางช่องทางอื่น ๆ ที่มูลนิธิมีการจัดไว้เพื่อการดำเนินกิจกรรมตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ  

·    เมื่อท่านติดต่อสื่อสารกับมูลนิธิ  ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารเป็นหนังสือหรือวาจา โดยไม่คำนึงว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้ติดต่อก่อน

·   เมื่อท่านส่งคำร้องขอให้มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ไว้หรือเคยให้ไว้  หรือคำร้องขออื่นใดเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน  ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบของการส่งแบบฟอร์มและเอกสารที่เกี่ยวข้อง

·   เมื่อท่านติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิ อาจารย์ บุคลากรของมูลนิธิ  ผู้รับมอบอำนาจ ผู้กระทำการแทน หรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องของมูลนิธิ  (เรียกรวมกันว่า “บุคลากรของมูลนิธิ”) ผ่านทางเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน สื่อสังคมออนไลน์ โทรศัพท์ อีเมล การพบปะกันโดยตรง การสัมภาษณ์ ข้อความสั้น (SMS) โทรสาร ไปรษณีย์ หรือโดยวิธีการอื่นใด

·    เมื่อได้รับการแนะนำหรือการให้ข้อมูล ตลอดจนเมื่อมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยบุคลากรของมูลนิธิ

·    เมื่อท่านส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่มูลนิธิ เพื่อเข้าร่วมในการเข้ารับการอบรมหลักสูตรต่าง ๆ และกิจกรรมอื่น ๆ ที่จัดขึ้นโดยหรือในนามของมูลนิธิ

·  เมื่อมูลนิธิได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลภายนอกเกี่ยวกับท่าน ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการได้รับข้อมูลจากการตรวจสอบจากแหล่งข้อมูลที่เป็นสาธารณะ แหล่งข้อมูลส่วนตัว หรือแหล่งข้อมูลอื่นทางเว็บไซต์ แหล่งข้อมูลสื่อสังคมออนไลน์  ตลอดจนแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ที่มูลนิธิ อาจได้รับ (“แหล่งข้อมูลที่เป็นบุคคลภายนอก”)

·  เมื่อมูลนิธิได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลภายนอกเกี่ยวกับท่านเพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามกฎหมาย และเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการกำกับดูแลในประการอื่น ๆ ตลอดจนเพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่ชอบด้วยกฎหมาย

 

เมื่อท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบุคคลภายนอกแก่มูลนิธิ  (ซึ่งบุคคลภายนอกดังกล่าว รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงผู้สมัคร  สมาชิกในครอบครัว  คู่ครองในทางนิตินัยและพฤตินัย) ท่านตกลงรับรองความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น พร้อมทั้งรับรองและยืนยันว่าท่านได้แจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบอย่างครบถ้วนแล้วเกี่ยวกับรายละเอียดตามนโยบายฉบับนี้  ตราบเท่าที่กฎหมายอนุญาต ท่านตกลงเพิ่มเติมที่จะดำเนินการให้มูลนิธิได้รับการชดใช้อย่างเต็มที่ ต่อความเสียหาย ความสูญเสีย การลงโทษ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ซึ่งรวมไปถึงแต่ไม่จำกัดเพียงค่าใช้จ่ายทางกฎหมายและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเกี่ยวเนื่องกับการดำเนินคดี ไม่ว่าในประการใด ๆ ซึ่งเรียกเก็บโดยหน่วยงานตามกฎหมาย หรือบุคคลผู้ได้รับความเสียหาย อันเกิดจากหรือเกี่ยวเนื่องกับการกระทำหรือการละเว้นไม่กระทำของท่านในการปฏิบัติหน้าที่เหล่านั้น หรือที่ส่งผลให้มูลนิธิ ถูกกล่าวหาหรือลงโทษฐานฝ่าฝืนกฎหมายที่ใช้บังคับ

 

3.    วัตถุประสงค์ของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย เพื่อวัตถุประสงค์ต่อไปนี้

·       เพื่อดำเนินการ ปฏิบัติตามขั้นตอนกระบวนการลงทะเบียน ตลอดจนการสมัครและการเป็นสมาชิกของมูลนิธิ

·       เพื่อดำเนินการ ปฏิบัติตามขั้นตอนกระบวนการและจัดการเกี่ยวกับหลักสูตรการฝึกอบรมของมูลนิธิ

·    เพื่อพิจารณาอนุมัติและปฏิเสธเกี่ยวกับการสมัครของท่านสำหรับการอบรมหลักสูตรต่างๆ ของมูลนิธิ ตลอดจนถึงการสมัครรับใช้ธรรมะและการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของมูลนิธิ

·       เพื่อรับข่าวสารประชาสัมพันธ์ และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องของมูลนิธิ

·    เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมให้ความรู้และฝึกอบรมเกี่ยวกับการดำเนินงานของมูลนิธิ ตลอดจนการเตรียมความพร้อมของอาสารับใช้ธรรมะ

·       เพื่อการติดต่อสื่อสารระหว่างมูลนิธิกับท่าน ซึ่งรวมถึงส่งข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการและข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับหลักสูตรการอบรมที่ท่านเข้าร่วมหรือประสงค์จะเข้าร่วม การให้การสนับสนุนกิจกรรมของมูลนิธิ หรือการสื่อสารเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่จะมีขึ้นในอนาคต

·       เพื่อให้ท่านสามารถเข้าถึงเนื้อหาในเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ หรือบริการอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นการเฉพาะ

·       เพื่อการดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนดภายใต้นโยบายของมูลนิธิ

·       เพื่อบริหารจัดการ จัดเก็บ บันทึก สำรอง หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล

·    เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อตกลง หรือนโยบายที่ใช้บังคับ ซึ่งกำหนดขึ้นโดยหน่วยงานตามกฎหมายที่มีอำนาจ รวมถึงเพื่อการตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบภายใน หรือการตรวจสอบจากบุคคลภายนอก

·    เพื่อบังคับใช้กฎหมาย หรือให้ความช่วยเหลือ ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานตามกฎหมายที่มีอำนาจ การดำเนินการตามหน้าที่ในการรายงาน และข้อกำหนดต่าง ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด หรือตามที่มีการตกลงเห็นชอบกับหน่วยงานรัฐในประเทศหรือเขตการปกครองใด ๆ  หรือการดำเนินการตามคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานตามกฎหมายที่มีอำนาจ

·       เพื่อการดำเนินการอื่น ๆ ที่จำเป็น ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ใด ๆ ข้างต้น

 

ท่านอาจเลือกที่จะไม่ให้มูลนิธิประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลบางประการ อย่างไรก็ดี การที่ท่านเลือกที่จะไม่ให้ข้อมูลบางประการดังกล่าว อาจเป็นอุปสรรคต่อความสามารถในการดำเนินกิจกรรมของมูลนิธิกับท่าน หรือต่อการจัดการอบรมตามหลักสูตรต่าง ๆ ของมูลนิธิให้ท่าน  ทั้งนี้ รวมถึงการดำเนินการตามคำขอ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน เช่น มูลนิธิอาจไม่สามารถอนุมัติให้ท่านรับการเข้ารับการอบรมได้  เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลบางประการที่ท่านปฏิเสธไม่ให้มูลนิธิประมวลผลนั้น เป็นข้อมูลที่มีความจำเป็นในการพิจารณาตอบรับการสมัครเข้ารับการอบรมของท่าน เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่จะปกป้องท่าน ผู้เข้ารับการฝึกอบรมท่านอื่น และบุคลากรของมูลนิธิ

เว้นแต่กฎหมายและกฎระเบียบที่ใช้บังคับจะอนุญาตให้กระทำเป็นอย่างอื่น  มูลนิธิจะแจ้งและขอความยินยอมจากท่าน (ในกรณีที่จำเป็น) หากมูลนิธิประสงค์จะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกเหนือไปจากที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ หรือนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับนโยบายฉบับนี้

 

4.    การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอก

มูลนิธิอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดให้แก่บุคคลต่าง ๆ  ดังต่อไปนี้

·    บุคคลที่ได้รับอนุญาตให้กระทำการในฐานะบุคลากรของมูลนิธิเท่าที่เกี่ยวข้องและตามความจำเป็นเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

·       ที่ปรึกษาของมูลนิธิ เช่น ผู้ตรวจสอบบัญชี ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ หรือผู้เชี่ยวชาญอื่นใด เป็นต้น

·    หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลและบังคับใช้กฎหมาย หรือที่ร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย คณะกรรมการต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย  หน่วยงานที่มีหน้าที่ระงับข้อพิพาท หรือตามหน้าที่ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบในประเทศไทย และ/หรือ ในเขตปกครองหรือประเทศอื่น แล้วแต่กรณี  

·       บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่ใช้บังคับ

·       บุคคลหรือหน่วยงานอื่นใดที่ท่านให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

 

ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น มูลนิธิจะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยและเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานและหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด หากมูลนิธิส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ มูลนิธิจะดำเนินการเพื่อทำให้มั่นใจว่าประเทศปลายทาง องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศนั้น มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอหรือเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยในบางกรณี มูลนิธิ อาจขอความยินยอมของท่านสำหรับการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ

ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น มูลนิธิจะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนด หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น  ในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน มูลนิธิจะขอความยินยอมจากท่านก่อน

 

5.    ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

มูลนิธิอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ นานเท่าที่จำเป็นเพื่อการดำเนินการให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ระบุข้างต้น  โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ และโดยคำนึงถึงปัจจัยดังต่อไปนี้

ก.    ระยะเวลาตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด (ถ้ามี)

ข.   อายุความตามกฎหมายสำหรับการดำเนินคดีที่อาจเกิดขึ้นจาก หรือเกี่ยวข้องกับเอกสารหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่มูลนิธิเก็บรวบรวมไว้ในแต่ละรายการ

ค.    แนวปฏิบัติของมูลนิธิที่เกี่ยวข้องสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท

 

ทั้งนี้มูลนิธิจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่ท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์  ยกเลิกการเป็นสมาชิก หรือการติดต่อครั้งสุดท้ายกับมูลนิธิ มูลนิธิอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนานกว่าที่กำหนดหากกฎหมายอนุญาต หรือการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องทางกฎหมายของมูลนิธิ

ทั้งนี้มูลนิธิจะมีการดำเนินการตามมาตรการที่เหมาะสม เพื่อทำการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่าน ตามระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้น

 

6.    สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

ท่านมีสิทธิดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้

·       ขอให้เพิกถอน หรือเปลี่ยนแปลงขอบเขตการให้ความยินยอมของท่านได้ให้ไว้กับมูลนิธิ

·    เข้าถึง หรือขอรับสำเนาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งนี้ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

·       ขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน ครบถ้วนสมบูรณ์

·    ขอให้ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ ทั้งนี้ ในกรณีตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้สิทธิแก่ท่าน

·       ขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

·       ขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

·       ขอให้มูลนิธิระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

·       ยื่นข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการแต่งตั้งตามพ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

 

ทั้งนี้ มูลนิธิจะดำเนินการตามสิทธิของท่าน เมื่อมีการร้องขอตามช่องทางการขอใช้สิทธิด้านล่าง โดยมูลนิธิอาจขอสงวนสิทธิไม่ปฏิบัติตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่าน ตามความเหมาะสมและเท่าที่กฎหมายที่ใช้บังคับจะอนุญาต

 

ช่องทางการขอใช้สิทธิ

ท่านสามารถส่งคำร้องขอใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยแจ้งขอแบบฟอร์มการขอใช้สิทธิที่อีเมล This email address is being protected from spam bots, you need Javascript enabled to view it และส่งข้อมูลทางอีเมลถึงเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูล ที่อีเมล This email address is being protected from spam bots, you need Javascript enabled to view it

 

7.    การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายฉบับนี้

มูลนิธิอาจเปลี่ยนแปลงนโยบายฉบับนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด โดยมูลนิธิจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายที่สำคัญใดๆ ผ่านช่องทางที่เหมาะสม ทั้งนี้ มูลนิธิขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงนโยบายฉบับนี้เป็นระยะ ๆ

 

ให้นโยบายฉบับแก้ไขปรับปรุงครั้งที่ 1 นี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม พ.. 2567

 

8.    ข้อมูลเพิ่มเติมและช่องทางการติดต่อสอบถาม

หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเนื้อหาส่วนใด ๆ ในนโยบายฉบับนี้ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติของมูลนิธิเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน กรุณาติดต่อเราที่

 

มูลนิธิส่งเสริมวิปัสสนากรรมฐานในพระสังฆราชูปถัมภ์ 

ที่อยู่:  100/513 หมู่ที่ 5 ถ.บางกรวย-ไทรน้อย ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี 11110

    โทร:   063-763-0026 (ในเวลาราชการ)   

    อีเมล:   This email address is being protected from spam bots, you need Javascript enabled to view it

Last Updated ( Saturday, 24 August 2024 )